Webmaster NadDate.com
ค้นพบมิตรภาพบนโลกออนไลน์ กับเพื่อนวัยทำงานที่มีคุณภาพ ที่ NadDate.com
<September 2007>
MoTuWeThFrSaSu
12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930

เคล็ดลับดังต่อไปนี้ถือว่าเป็นเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆสำหรับ หนุ่มๆสาวๆเอาไว้จีบกัน เรามาเริ่มกันเลย !!!

– เข้าใกล้เป้าหมายด้วยรอยยิ้ม ค่อยๆชำเลืองมองฝ่ายตรงข้ามอย่างช้าๆพร้อมด้วยรอยยิ้มอันชวนฝัน เพื่อแสดงว่าคุณมีความสุขขนาดไหนเมื่อได้พบเขา และใช้การแสดงออกทางสีหน้าเพื่อบ่งบอกว่าคุณกำลังให้ความสนใจในสิ่งที่กำลังสนทนากันอยู่

– เมื่อคุณกำลังพูดคุยกับ หนุ่ม/สาว เมื่อใดก็ตาม จงแน่ใจว่าคุณสบตาเขา แต่ห้ามจ้องเด็ดขาด! และอย่ามองรอบๆห้องเป็นอันขาด เพราะนั่นให้ทำให้เขาคิดว่าคุณกำลังมองหาและให้ความสนใจคนอื่นมากกว่าอยู่นั่นเอง ปล่อยให้ดวงตาทำหน้าที่เป็นสื่อเพื่อแสดงให้ เขา/เธอ ได้รับรู้ถึงความรู้สึกของคุณ

– จงฟัง! ไม่ว่าใครก็ตามย่อมต้องให้คู่สนทนาของตนเป็นผู้ฟังที่ดีด้วยกันทั้งนั้น การฟังถือว่าเป็นศิลปะอย่างหนึ่งและนักสนทนาที่ดีย่อมมีทักษะในการฟังที่ดีด้วย แน่นอนว่าคู่เดทของคุณย่อมปลื้มแน่ถ้าคุณเป็นนักฟังตัวยง

– แสดงให้เห็นว่าคุณให้ความสนใจในสิ่งที่ เขา/เธอ กำลังพูดอยู่โดยการซักถามเพิ่มเติม การถามคำถามเหล่านี้มักจะเป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่าคุณกำลังให้ความสนใจต่อสิ่งนั้นอยู่ และพยายามแสดงออกว่า เขา/เธอเป็นคนที่คุณกำลังสนใจอยู่ ดูเหมือนว่าวิธีนี้จะใช้ได้ผลไปเสียทุกทีสิน่า!

– เมื่อพูดคุยกันอาจจะมีการถูกเนื้อต้องตัวกันบ้างเมื่อสิ่งที่พูดนั้นเป็นที่น่าสนใจ หรือแม้แต่น่าหัวเราะก็ตาม แต่จงอย่าทำอย่างพร่ำเพรื่อ เพื่อแสดงว่าคุณสนใจในตัวเขา/เธอ เมื่อคุณทั้งคู่ต้องตาต้องใจกันแล้วล่ะก็ การสัมผัสเพียงแค่ปลายเล็บก็จะเป็นที่สังเกตได้ว่าพวกคุณกำลังสนใจกันและกันนั่นเอง

– จงมั่นใจ! ผู้คนทั่วไปมักจะถูกดึงดูดโดยคนที่มีความมั่นใจในตนเอง ความมั่นใจก็เหมือนกับการส่องแสงของพระอาทิตย์ ทุกคนสามารถที่จะสัมผัสกันได้

– การชมเชยคู่เดทอย่างจริงใจช่วยให้ความหลงใหลของคุณที่มีต่อเธอยืนยาวต่อไปด้วยอีก แต่ต้องเป็นคำว่า “จริงใจ” นะ ไม่ใช่ยกยอจนหลายเป็นฟังดูเว่อร์ไป พยายามมองหาอะไรก็ได้ในตัวเขา/เธอ ที่คุณคิดว่าคุณสามารถชื่นชมได้อย่างจริงใจ สิ่งๆนั้นควรจะเป็นสิ่งที่ไม่ได้เห็นเด่นชัดจนเกินไป เช่น ผิวที่ดูดีเปล่งปลั่งของเขา/เธอ หรือ คนตาคู่งามงอนของเธอ เป็นต้น การที่เราชื่นชมสิ่งเล็กๆน้อยๆแบบนี้ย่อมสร้างความประทับใจให้กับคู่เดทมากที่สุดเพราะย่อมเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่าคุณให้ความสนใจแม้แต่สิ่งที่ยากที่จะสังเกตได้

– ตอบรับด้วยความสุภาพ คุณจะใช้คำใด้ที่แสดงได้ถึงความสุภาพและดูอ่อนน้อมแด่คู่เดทของคุณทุกครั้งเมื่อเขา/เธอชื่นชมคุณ ง่ายๆเลย คำที่ดูสุภาพและไม่เสแสร้งคือ “ขอบคุณครับ/ค่ะ”

– เทคนิคที่ดูเป็นสาวเรียบร้อยไม่แรงจนเกินไป โดยการเข้าถึงเขาและพูดจาอย่างนิ่มนวลน่าฟังเพื่อที่ว่าเขาจะได้คล้อยตามในสิ่งที่คุณกำลังพูด ง่ายๆเลยคือพยายามเข้าใกล้เขาในขณะที่มีเพื่อนๆของคุณอยู่รอบๆ แต่ก็ไม่เสมอไปเพราะผู้ชายบางคนมักจะจิตตกเมื่อเห็นสาวๆรุมล้อมเขาอยู่ ถึงต่อให้คุณจะปลีกตัวออกมาจากกลุ่มเพื่อนแล้วเดินไปไปกล่าวทักทาย “สวัสดี” หรือเดินผ่านเขาไป ผู้ชายบางคนอาจจะนึกชอบคุณแต่ก็ไม่อยากที่จะไปขัดจังหวะคุณกับเพื่อนๆ เพราะงั้นจงแสดงออกแต่พอดีๆ และหาจังหวะที่เหมาะสมเพื่อเข้าไปทำความรู้จักกับเขา

– ใช้สายตาเพื่อนเป็นตัววัดเรตติ้งของคุณ ลองให้เพื่อนคุณจับตามองกลุ่มของหนุ่มๆเมื่อคุณเดินผ่าน และให้เธอนั่นแหละเป็นคนสังเกตว่าในกลุ่มนั้นมีใครบ้างที่สนใจคุณ

– ไม่มีใครหรอกที่อยากจะอยู่ร่วมกับคนที่จริงจังกับชีวิตมากเกินไป ทางที่ดีคุณควรจะ ร่าเริงสดใสและดูไม่จริงจังกับชีวิตมากเกินไป ไม่ต้องถึงขนาดที่ว่าต้องเอามือป้องปากทุกครั้งที่คุณหัวเราะ ให้คนอื่นให้เห็นบ้างว่าคุณสุดๆแค่ไหนกับการหัวเราะครั้งนี้

– ทิ้งร่องรอยหรือแสดงออกอะไรบางอย่างว่าเขาคือคนที่ใช่ มีตั้งหลายวิธีที่จะแสดงออกกับคนที่โดนใจคุณสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปรยๆ ว่าคุณเองไม่ค่อยออกไปไหนสักเท่าไรกับใคร สถานที่ที่คุณพลาดไปเที่ยวหรือภาพยนตร์ที่คุณตั้งตารอที่สุด พูดถึงสิ่งที่เขามักจะทำเป็นประจำและคุณเองก็อยากจะมีส่วนร่วมด้วย เป้าหมายของการแสดงออกเหล่านี้ก็เพื่อที่จะให้คู่เดทของคุณได้รับรู้ว่าคุณอยากให้เขาชวนไปบ้าง หรือว่าอย่างน้อยคุณก็ว่างสำหรับเขาเสมอ แต่การแสดงออกเหล่านี้ต้องเป็นไปอย่างสบายๆไม่ดูเป็นการจงใจ เพราะงั้นอาจจะกลับกลายเป็นผลร้ายต่อตัวคุณเองก็ได้

– เตร็ดเตร่ไปตามสถานที่ที่เขาชอบไปบ้าง พยายามหาเวลาอยู่กับเขาหลังเลิกเรียนบ้าง เข้าร่วมสมาชิกชมรมที่เขาสังกัดอยู่ ตีสนิทพี่สาวหรือน้องชายของเขา ยิ่งคุณพยายามให้เขาได้พบคุณบ่อยๆมากเท่าไร เขาก็ยิ่งจะคุ้นเคยกับคุณมากขึ้นเท่านั้น และแน่นอนคุณก็จะมีโอกาสได้จีบเขามากขึ้นนั่นเอง! นอกจากนี้แล้ว เขา/เธออาจจะคิดได้ว่าคุณเองมีอะไรหลายๆอย่างที่คล้ายกันอยู่ไม่น้อย เพราะเขามักเจอคุณเสมอๆในที่ๆเขาชอบไป

– แสดงออกให้เห็นว่าคุณห่วงใยเขามากแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นการจองโต๊ะกินข้าวให้ที่โรงอาหารตอนเที่ยง ถามไถ่เพื่อให้ความช่วยเหลือในเรื่องการบ้าน ถ้าเขาอยู่คนเดียวโดดเดี่ยว พยายามลองชวนให้เขาเข้ามาสนุกกับกลุ่มเพื่อนๆของคุณ แสดงให้เขาเห็นไปเลยว่าคุณหวานและช่างห่วงใยเขาขนาดไหน!

เขาอยากเป็นแฟนหรือคิดแค่เพื่อน…ดูยังงัยนะ ?

       เรื่องแบบนี้อาจจะเกิดขึ้นกับคุณเองก็ได้ เห็นๆกันอยู่ว่าผู้ชายมักคบกันเป็นกลุ่ม เฮไหนเฮกัน แต่ใครจะไปรู้บ้างว่าหนึ่งในนั้นอาจจะแอปปิ๊งคุณอยู่ก็ได้ แล้วถ้าเขาเองก็ไม่รู้ว่าบอกคุณยังไงดี แล้วตกลงคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาสนใจในตัวคุณ มาดูนี่กันเลย เรามีเคล็ดลับมาบอกพวกคุณ

– คิดเป็นแฟนหรือแค่เพื่อน ต่างกันนะ!!
โดยส่วนใหญ่แล้ว เพื่อนมักพูดอย่างเปิดอกกับ
เพื่อนด้วยกัน เฮฮากันสุดๆ หรือแม้กระทั่งหยอกล้อกันแรงๆโดยที่ไม่เคืองกัน แต่ถ้ามีชายหนุ่มคนใดกำลังปิ๊งคุณอยู่ละก็ แน่นอนเขาไม่มีทางเข้าไปพูดกับคุณอย่างที่เขาพูดกับเพื่อนแน่นอน บางครั้งคุณอาจจะสังเกตได้ว่าเขาแอบมองคุณอยู่ แต่ทันใดที่คุณหันไปมองตอบ หนุ่มๆส่วนใหญ่มักจะหันหน้าหนีและทำฟอร์มทำอย่างอื่นกลบเกลื่อนไปแทน หรือว่าเมื่อมีคนเข้ามาแซวหรือหยอกล้อคุณ คนอื่นๆรอบข้างย่อมต้องเข้ามาแจมด้วยอย่างแน่นอน หนึ่งในคนที่เข้าไปร่วมสนุกคงไม่มีเขารวมอยู่ด้วย แต่เขาจะคอยมองอยู่ห่างๆ สังเกตคนที่สร้างเรื่องขึ้นมาล้อเลียนคุณด้วยความโกรธแค้น หรือในกรณีที่คุณเกิดไปเดินชนไรขึ้นมา คนอื่นๆอาจจะเมินเฉยแล้วก็เดินผ่าน แต่เขานี่แหละจะเป็นคนที่เดินเข้าไปถามและอาสาให้ความช่วยเหลือคุณอย่างรวดเร็ว

– คิดแค่เพื่อน
คนที่กำลังมีความรักกับคนที่กำลังคิดกับคุณแบบเพื่อนนั่นย่อมต่างกันแน่นอน
เพื่อนย่อมไม่มีทางที่จะมาออกอาการหวานๆกับคุณแน่ เพื่อนกันสามารถแบ่งปันกันได้ทุกอย่างแต่คงไม่ต้องการให้เพื่อนมาคอยคุ้มครองถามไถ่อยู่ตลอดเวลาเป็นแน่ และเพื่อนกันก็คงจะไม่รำคาญถ้าคุณจะออกอาการบ้าสุดๆขนาดไหน และอีกอย่างเพื่อนกันก็คงไม่มีใครมาพูดอ่อนหวานทำเสียงออดอ้อนใส่คุณอยู่แล้ว เพื่อนจึงเปรียบเสมือนกับคนที่คอยพูดคุย ดูแลกัน แต่ไม่ได้มีความอ่อนหวานและตัณหาเข้ามาเกี่ยวข้อง

– คิดเป็นแฟน
แต่ความรักย่อมเป็นอะไรที่ตรงกันข้ามกับเพื่อน คุณไม่มีทางที่จะยอมให้คนที่
คุณชอบแต่งตัวแย่ๆแน่นอน คนที่แอบชอบคุณมักจะสังเกตสิ่งเล็กๆน้อยๆของคุณตลอด เขามักจะไม่เคยแม่กระทั่งพูดอย่างที่เพื่อนๆพูดกับคุณ เขามักจะทำตัวไม่ถูกเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณ บางคนถึงขั้นท้องไส้ปั่นป่วน บิดไปบิดหน้า หน้าแดงต่อหน้าคุณเลยก็มี เอาละทีนี้คุณคงพอจะรู้แล้วนะว่าใครกันที่แอบชอบคุณอยู่ ได้เวลาแล้วที่คุณจะค้นหาจริงๆจังๆเสียทีว่าเขาคิดกับคุณเพียงแค่เพื่อนหรือคนที่รักกันแน่

โปรดติดตามเรื่องต่อไปครับ

เคล็ด(ไม่)ลับ 5 ข้อ ในการนัดเดทออนไลน์… ชัวร์ๆไม่มั่วนิ่ม 
     
การหาคู่เดทกันทางอินเตอร์เนทอาจจะฟังดูแปลกๆไปบ้าง และคุณเองก็อาจจะพบกับอันตรายที่แอบแฝงมากับบุคคลเหล่านั้นก็เป็นได้ ในขณะที่คุณกำลังเข้าสู่ผู้คนกลุ่มใหญ่มากหน้าหลายตา คุณคงสับสนวุ่นวายน่าดูในการรู้จักกับผู้คนเหล่านั้น แล้วไหนที่จะต้องทำความรู้จักกับคนที่คุณคิดว่าเขาคงเป็นไปตามคุณสมบัติที่เขาบรรยายมาเต็มหน้ากระดาษอีกละ เรามีทิปดีๆที่จะเสนอให้คุณอยู่อย่างปลอดภัยยามที่เริ่มคุยกับชายหนุ่มหรือหญิงสาวที่คุณกำลังจะทำความรู้จักด้วยทางโลกออนไลน์
     
ข้อควรปฏิบัตข้อที่ 1: เริ่มทำความรู้จักกันอย่างช้าๆ
ณ อาณาจักรแห่งความรักนี้ย่อมมีบุคคลทุกรูปแบบ และก็ไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะเหมาะสำหรับคุณ ลองตั้งสติสักนิด ค่อยๆเริ่มทักทายและดำเนินต่อไปอย่างสุขุมและรอบคอบ อีกฝ่ายอาจจะไม่ได้มีลักษณะหรือนิสัยตามที่โอ้อวดมาก็ได้ ถ้าเขากลับเร่งรัดคุณเข้าไปอีก เลิกยุ่งไปเลย! อย่าติดต่อใครก็ตามโดยที่ยังไม่ได้ไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน
     
ข้อควรปฏิบัติข้อที่ 2 : ปกป้องตัวตนของคุณ ข้อดีอีกอย่างของการออกเดทออนไลน์คือ คุณสามารถรู้จักใครก็ได้โดยมีข้อมูลที่คุณได้รับรู้จากหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยที่คุณไม่ต้องเสียเวลาออกไปพบเขาเอง คุณเองก็สามารถตัดสินใจได้เองว่าจะเปิดเผยความเป็นคุณให้เขารู้เมื่อไรก็ได้ แต่คุณเองก็ต้องระวังไว้ให้มากๆ เพราะตราบใดที่ใครก็ตามที่รู้ข้อมูลลับของคุณแล้วละก็ เขาสามารถที่จะใช้เพื่อจัดการคุณก็ได้ ถ้าเกิดสมาชิกคนใดแสดงอาการ “`เกินขอบเขต” ที่อยากจะได้ นามสกุล อีเมล์ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ของที่ทำงาน หรือข้อมูลส่วนตัวใดๆของคุณก็ตามคุณควรห่างคนประเภทนี้ไปได้เลย
     
ข้อควรปฏิบัติข้อที่ 3 : ใช้สัญชาติญาณเป็นตัวช่วย เมื่อใดก็ตามที่คุณพูดคุยกับใครในโลกออนไลน์แล้วละก็ อย่าเพิ่งตัดสินอะไรก็ตามเพียงเพราะว่ามันเป็นโลกออนไลน์อันน่าเชื่อถือเท่านั้น ข้อมูลอะไรก็ตามที่ฟังดูสวยหรูบนหน้าจอคอมพิวเตอร์มันอาจจะดูเห่ย แย่และอันตรายสุดๆในโลกแห่งความเป็นจริงก็ได้ ดังนั้นควรยับยั้งชั่งใจ ใช้สัญชาติญาณของเราเองในการพิจารณาที่จะเลือกติดต่อกับใคร ค่อยๆใช้เวลาเลือกอย่างถี่ถ้วนและรอบคอบ หลังจากที่คุณหาข้อมูลของเขาเพียงพอและเห็นว่าเขาดีแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะเออ ออคบหากับเขาได้เลยทันที หยุดความคิดนั้นไว้เดี๋ยวนี้! พยายามคิดถึงการออกเดททางออนไลน์เหมือนกับคุณออกเดทในโลกแห่งความเป็นจริง คุณไม่ต้องหลงรักทุกคนที่มีโปรไฟล์เยี่ยมยอดหรอก คิดให้รอบคอบแล้วค่อยก้าวต่อไป
     
ข้อควรปฏิบัติข้อที่ 4: ขอรูปหน่อย! ถ้าคุณเริ่มถูกใจใครบางคน เริ่มแชตกันอย่างจริงจัง และพอจะมองออกคราวๆแล้วว่าคนนี้น่าจะเป็นคนที่ใช่สำหรับคุณ อย่าลืมที่จะขอดูรูปของเขาด้วยล่ะ แน่นอนว่าการพิจารณาจากรูปภาพย่อมดีกว่าการที่เขาพรรณนารูปลักษณ์ผ่านตัวหนังสืออยู่แล้ว ข้อดีอย่างแรกเลยก็คือ คุณสามารถเห็นได้ชัดๆเลยว่าเขาหน้าตายังไง เขาโกหกคุณหรือว่า หน้าตาของเขาเป็นไปตามที่เขาบรรยายไว้หรือไม่ คุณเองจะสัมผัสได้เลยว่าหน้าตาอย่างเขา “โดน” สักแค่ไหน และข้อดีต่อมาคือ ถ้าเขายังคงพลัดผ่อนที่จะส่งรูปให้คุณแล้วละก็ คิดในแง่ร้ายได้เลยว่าคงอาจจะมีอะไรสักอย่างที่มันมากกว่า “ความเขินอาย” ที่เขามักจะอ้างไว้แน่ๆ
ข้อควรปฏิบัติขอที่ 5 : จงระวัง! ทิปข้อนี้ถือได้ว่าเป็นทิปที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ ในโลกออนไลน์คุณจะดูเจ๋งอย่างไรก็ได้ แต่โลกแห่งความเป็นจริงมันอาจจะเป็นอะไรที่ตรงข้ามก็ได้! เมื่อใดก็ตามที่คุณเริ่มติดต่อใครแล้วละก็ คอยสังเกตพฤติกรรมแปลกๆของเขาไว้ให้ดี ตัวอย่างเช่น ในระหว่างที่คุณกำลังสนทนาออนไลน์กับเขาอยู่ แต่เขากลับฉุนเฉียวและก้าวร้าวขึ้นมาอย่างกะทันหันโดยที่ไม่มีสาเหตุใดๆเลย คุณต้องจับตาดูเขาและพิจารณาเขาคนนี้ให้ดี! บางครั้งประโยคใดประโยคหนึ่งอาจจะไปทำให้เขาคุ่นเคืองได้ เพราะงั้นคุณต้องคอยระมัดระวังตรงนี้ด้วย นอกจากนี้คุณเองต้องในความสนใจในเรื่องที่ว่าเขาพยายามที่จะข่มคุณหรือควบคุมคุณหรือป่าว เช่น คู่เดทของคุณเริ่มวิจารณ์คุณในทางไม่ดี มีโอกาสเป็นได้สูงมากที่เขาพยายามที่จะพูดหว่านล้อมทำให้คุณรู้สึกว่าคุณดูด้อยกว่าเขาและเขาช่างเป็นคนดีเพอร์เฟคจริงๆ เพื่อที่ว่าคุณจะได้กลายเป็นลูกไก่ในกำมือของเขานั่นเอง นอกจากนี้แล้ว จงพิจารณาถึงข้อมูลที่คู่เดทคุณพยายามส่งถึงคุณด้วย ถ้าเกิดมีปัญหาตามข้อดังกล่าวข้างล่างนี้แล้วละก็ คุณควรจะพิจารณาคู่เดทคนนี้ใหม่แล้วล่ะ
               1. เขา/เธอ ให้ข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวเขาไม่ว่าจะเป็น อายุ, สิ่งที่เขาให้ความสนใจ, รูปร่างหน้าตา, สถานะภาพปัจจุบัน, หน้าที่การงาน ฯลฯ ได้อย่างสับสน ขัดกันไปมา ไม่ตรงกันกับที่เคยบอก
               2. เขา/เธอ ปฏิเสธที่จะพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ถึงแม้ว่าพวกคุณเริ่มที่จะสร้างสายสัมพันธ์กันอย่างจริงจังแล้วก็ตาม หรือ
               3. เขา/เธอเลือกที่จะพูดให้เรื่องใดก็ตามที่ดูเจาะจงเกินไป เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นไปเป็นเรื่องอื่น
               4. เขา/เธอมักจะตอบไม่ตรงคำถาม
               5. เขา/เธอมักจะพูดอย่างคลุมเครือและพยายามย้อนถามคำถามนั้นกลับไป
               6. เขา/เธอมักจะส่งรูปที่ถ่ายเป็นหมู่คณะเพื่อคุณจะไม่สามารถที่จะสังเกตเห็นเขาได้อย่างชัดเจน
     
การออกเดทออนไลน์เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้น และอาจจะเติมเต็มส่วนหนึ่งของชีวิตให้กับคุณ แต่คุณต้องไม่ลืมที่จะปฏิบัติตามทิปที่ได้นำเสนอไปแล้ว เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง!!

โปรดติดตามเรื่องต่อไป

ผลพลอยได้จากการจุมพิต (Benefits of Kissing)

น่าประหลาดใจไม่น้อยใช่ไหมกับหัวข้อข้างต้น, หลายๆท่านคงรู้สึกเช่นเดียวกันกับเราๆท่านๆที่ได้รู้ถึงคุณประโยชน์ของการจูบในแง่อื่นนอกเหนือจากแสดงถึงความรักกับคนพิเศษ มาดูกันว่าคุณประโยชน์นอกเหนือจากที่กล่าวไปนั้น มีอะไรกันบ้าง

– การจูบช่วยยับยั้งฟันผุ (ดีกว่าการแปรงฟันอีกงั้นหรือ??) ผู้เชี่ยวชาญทางด้านทันตกรรมแห่งสมาคมทันตกรรมแห่งอังกฤษอย่าง ทันตแพทย์ Peter Gorden ได้กล่าวไว้ว่า “หลังจากที่เรารับประทานอาหารเข้าไป ช่องปากของพวกคุณจะเต็มไปด้วยสารละลายจำพวกน้ำตาลและกรดในน้ำลาย ซึ่งเป็นตัวการในการสร้างคราบพลัก การจูบถือว่าเป็นวิธีแห่งธรรมชาติอย่างหนึ่งในการกำจัดคราบเหล่านั้น” ท่านยังเสริมอีกว่า “การจูบเป็นตัวช่วยให้น้ำลายชำระคราบพลักออกให้อยู่ในระดับปกติทั่วไป”

– การจูบช่วยลดภาวะตรึงเครียด การจุมพิตอย่างดูดดื่มถือว่าเป็นเทคนิคเยี่ยมยอมในการผ่อนคลายนอกจากนี้, Michelle Kay Mcnabb นักปรึกษาทางด้านลดภาวะความตรึงเครียดกล่าวเสริมว่า “ทุกครั้งที่คุณจูบ รูปปากจะมี่ลักษณะเหมือนยิ้มไปโดยอัตโนมัติ และเมื่อทั้งภาษากายและภาษาใจหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวแล้ว แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่สภาวะตรึงเครียดจะเกิดขึ้นได้ ณ ช่วงเวลานั้น และนอกจากนี้แล้ว เวลาที่คุณจูบ คุณจะหายใจแรง และหลับพริ้มไปในขณะที่คุณจูบ นั้นก็ถือว่าเป็นการผ่อนควายอารมณ์จากโลกที่แสนจะวุ่นวายนี้เช่นกัน”

– การจูบช่วยลดน้ำหนัก แล้วจะต้องจุมพิตกันมาราธอนนานขนาดไหนกันละถึงจะลดน้ำหนักได้? คุณต้องใช้พลังงาน 3,000 แคลลอรี่ในการลดน้ำหนัก 1 ปอนด์ Claire Potter กล่าวว่า “การจูบที่มาราธอนช่วยให้ระบบเมตาบอลิซึมเผาผลาญน้ำตาลได้เร็วยิ่งขึ้น การเผาผลาญจะได้มากน้อยเท่าไร ขึ้นอยู่กับเวลาที่ใช้ด้วย โดยทั่วไปแล้ว ในการจูบ 10 นาที จะช่วยเผาผลาญพลังงานได้ถึง 10 แคลลอรี่”

– การจูบช่วยยับยั้งวัยชรา Claire Potter ที่ปรึกษาทางด้าน fitness แห่งนิตยสาร Cosmo กล่าวว่า “การจูบช่วยให้กล้ามเนื้อแก้มและขากรรไกรของคุณปรับให้เข้ารูปมากยิ่งขึ้น ทำให้ชะลอการเกิดการย่อนคล้อยตรงบริเวณนั้นได้เป็นอย่างดี”

– การจูบช่วยเพิ่มพลังในการออกกำลังกาย หัวใจคุณกำลังเต้นแรง ชีพจรคุณยิ่งพุ่งปรี๊ด “ถ้าการจูบสร้างความตื่นเต้นให้แก่คุณ ร่างกายจะหลั่งสารอะดรีนาลีนสู่กระแสเลือด ทำให้หัวใจคุณสูบฉีดเลือดไปทั่วร่างกาย” แพทย์หญิง Susan Hotchkies ยังเสริมอีกว่า “ถือว่าการจูบเป็นการกระตุ้นให้หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงยังส่วนต่างๆได้อย่างดีเยี่ยม”

การจูบช่วยชี้ทางสว่างให้กับหนุ่มสาวในการเลือกคู่ การที่คุณได้รับสัมผัสรสจูบจากชายหนุ่มหน้าใหม่ทำให้คุณได้รับรู้ถึงฟีโรโมน (สารเคมีที่บ่งบอกถึงเสน่ห์ดึงดูทางเพศ) ของเขา นักบำบัดทางด้านความสัมพันธ์และการแต่งงานกล่าวว่า “การจุมพิตครั้งแรกมักจะบ่งบอกว่าคุณและเขาจะไปด้วยกันได้หรือไม่ในภายภาคย์หน้า โดยปกติแล้วคนเราคิดว่ากลิ่นมักจะกระตุ้นแรงดึงดูดแห่งจิตใต้สำนึกของเราได้ และถ้าฟีโรโมนของคุณ “ไม่โดน” แล้วละก็ ฝ่ายตรงข้ามอาจจะเมินเฉยไปเลยก็ได้”

– การจูบทำให้เราเกิดความมั่นใจ ปัจจัยหนึ่งในการสร้างความสุขให้เกิดขึ้นย่อมไม่มีสิ่งใดที่จะดีไปกว่าการจูบ ดังที่นักบำบัดทางด้านจิตวิทยา Paul Zeal ได้ให้ความเห็นไว้ว่า “ในทางทฤษฎีแล้ว เมื่อคุณจูบอย่างดูดดื่ม คุณจะรู้สึกได้ถึงการมีความสุข และเมื่อคุณมีความสุขคุณก็จะรู้สึกดีต่อตัวคุณเอง”

– การจูบทำให้ความรู้สึกโดยรวมดีขึ้นอย่างน่าประหลาด ได้มีเอกสารรายงานทางด้านวิทยาศาสตร์ว่า การจูบจะช่วยให้ร่างกายส่งสัญญานไปยังสมองเพื่อหลั่ง Oxytocin (ฮอร์โมนที่ทำให้เรารู้สึกดีโดยรวม) และทางหลักชีววิทยาแล้ว การที่เราจูบหนึ่งครั้ง มักจะส่งผลให้มีการจูบตามมาเรื่อยๆ เมื่อเราจูบแล้วสารเคมีที่อยู่ในปากจะถูกส่งต่อเมื่อริมฝีปากประกบกัน ทำให้เกิดความรู้สึกโดยรวมที่ดียิ่งขึ้นไปอีก

– การจูบทำให้การงานดีขึ้น นักจิตวิทยาและนายแพทย์ชาวเยอรมันได้วิจัยว่า สามีที่จูบภรรยาก่อนไปทำงานมีอัตาการขาดงานที่น้อยกว่าคนที่ไม่ได้จูบ นอกเหนือจากนี้แล้วสามีที่จูบภรรยาก่อนไปทำงานมักจะประสบอุบัติเหตุระหว่างทางไปทำงานน้อยกว่าปกติ 20-30 เปอร์เซ็นต์ และมีชีวิตอยู่ยืนยาวคนทั่วไปถึงกว่า 5 ปีเลยทีเดียว Dr. Arthur Sazbo หนึ่งในนักจิตวิทยาชาวเยอรมันได้ให้ความเห็นไว้ว่า เหตุผลที่สนับสนุนเคล็ดลับช่วยให้ชีวิตยืนยาว เพราะสามีที่จูบภรรยาก่อนออกไปทำงานมักจะเริ่มเช้าวันใหม่ด้วยความสดใสและมองโลกในด้านบวกเสมอ

.เด๋ววันหลัง จาหาเรื่องอื่นมาให้อ่านกานอีกนะค่ะ

“ความรัก” และ “การหลอกลวง”… ไปด้วยกันไม่ได้

“การไว้ใจ” คือรากฐานของความรัก ว่ากันว่าการเชื่อใจของกันและกันจะล่อเลี้ยงให้ความรักเติบโตได้อย่างสวยสดงดงาม

ดังนั้น… ความรักไม่สามารถจะอยู่ได้หากขาดการเชื่อใจกันและกัน เมื่อใดก็ตามที่คุณรักใครสักคนแล้ว คุณย่อมหวังว่าคนๆนั้นจะซื่อสัตย์กับคุณ… และเขาเองย่อมได้รับความซื่อสัตย์เป็นการตอบแทน คุณยอมแลกได้ทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อคนที่คุณรักก็ต่อเมื่อคุณมั่นใจในตัวเขาแล้วนั่นเอง

เพื่อที่จะให้ความรักของคุณทั้งคู่อยู่ยงคงกระพันนั้น “การไว้ใจ” กันและกันถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องอยู่ควบคู่ไปกับความรักด้วย
เมื่อใดก็ตามที่ความไว้วางใจได้หายไปจากคนทั้งสองแล้วละก็ ความเจ็บปวดจะกลายเป็นสิ่งที่จะเข้ามาแทนที่นั่นเอง มันอาจจะฟังดูยากที่จะให้คุณหยุดรัก แต่น่าประหลาดใจที่โดยทั่วไปแล้วคุณจะหยุดไว้วางใจเขาทันทีที่เขาไม่ซื่อสัตย์ต่อคุณ

เมื่อคุณได้เริ่มหลงรักใครบางคนเข้าเต็มเปาแล้วล่ะก็ คุณมักจะไม่ระวังว่าเขาคนนั้นจะทำลายความไว้วางใจที่คุณมอบให้ สัญญาณอะไรต่างๆที่บ่งบอกว่าเขาจะนอกใจ คุณเองก็ละเลยไม่ได้สนใจเท่าที่ควร แล้วเป็นไงล่ะ! เมื่อความไว้วางใจที่คุณมีต่อเขาขาดสะบั้นลง คุณก็ต้องมานั่งโศกเศร้าเสียใจ และโทษตัวเองที่ไม่ได้สังเกตระแวดระวังอะไรเลย

ยิ่งบางคนที่เข้าตำรา “รักทำให้ตาบอด” กลับคิดไปอีกว่าเขาไม่ได้ลอกลวงอาจจะเป็นเราที่ผิดเอง แต่ทันทีที่เธอหูตาสว่างแล้ว บางคนถึงขั้นช็อกไปเลยก็มี

สำหรับใครก็ตามที่ใช้ “การโกหก” มาล้อเล่นกับความรัก หยุดเสียเถอะ! มันอาจจะส่งผลเสียหายขั้นรุนแรงต่อจิตใจนะ
เคยได้ยินไหมที่บางคนกล่าวกันว่า “ความรักเป็นสิ่งบริสุทธิ์” เช่นรักที่แม่มีต่อลูกน้อย หรือความรัก ความศรัทธาที่เรามีต่อพระเจ้า ฯลฯ ความรักอย่างโรแมนติคก็ถือว่าเป็นความรักอันบริสุทธิ์เช่นกัน รักเปรียบเสมือนพรจากพระเจ้าให้เราได้พบกับคนที่เราจะฝากชีวิตไว้ด้วยได้ ได้พบกับคนที่พร้อมที่จะดูแลห่วงใยเราเสมอ และได้พบกับคนที่เราจะไว้ใจเขาได้ตลอดไป

เมื่อใดที่คุณหยิบยื่นความรักให้กับใครซักคน “ความจริงใจ” คือสิ่งที่คุณและเขาต้องมอบให้กัน ถึงแม้แค่การโกหกเล็กๆน้อยเกิดขึ้นระหว่างคุณและเขา มันจะอาจจะทำให้คุณสงสัย ระแวงในตัวเขา บางรายรุนแรงถึงขั้นเลิกกันไปเลย แล้วถ้ายิ่งการโกหกของเขามีเรื่องความสัมพันธ์กับคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย นึกไม่ออกเลยว่าผลที่ออกมามันจะรุนแรงขนาดไหน

อย่างที่กล่าวมาช่วงแรกว่า “ความรักเป็นสิ่งบริสุทธิ์” ดังนั้นเราไม่ควรที่จะให้การโกหก หลอกลวงเข้าเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเขา เพราะเมื่อใดก็ตามที่มีการโกหกลอกหลวงเข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว ตอนจบของความรักมักจะไม่ได้สวยหรูอยากที่คุณวาดฝันไว้

++ บททดสอบรักแท้ ++

ความสัมพันธ์ที่คนส่วนมากฝันถึง มักจะเป็นประเภทที่ว่า ทั้งรัก ทั้งชอบ ทั้งสนุกสนาน คุณจะได้รับทั้งความสุขและความสนุกสนาน
แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไรล่ะว่าความรักที่ว่านี้เป็นรักแท้ที่คุณทั้งคู่มอบให้กัน ไม่ใช่แค่ความหลงใหลชั่วครู่ แล้วเราจะทดสอบรักแท้ได้หรือไม่?

ถ้าพ่อแม่คุณบอกกับคุณว่าพวกท่านรักคุณ นั่นหมายความว่าพวกท่านพร้อมที่จะอุทิศและเสียสละทั้งชีวิตเพื่อคุณได้ นี่คือความรักที่พ่อแม่มีให้ลูก แล้วความรักที่คนรักคุณมีให้คุณล่ะ?

++ บททดสอบรักแท้ ++จะช่วยให้คุณทราบว่าคุณทั้งคู่เป็นคู่กันจริงๆ คุณทั้งสองจะร่วมฝ่าฝันปัญหาด้วยกัน ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งที่จะทิ้งให้อีกฝ่ายต้องเผชิญปัญหาอย่างลำพัง คุณทั้งสองจะให้กำลังใจและสนับสนุนซึ่งกันและกัน นี่ล่ะคือ “รักแท้”

แล้วทำไมพวกคุณมักจะหลงใหลไปกับความ ‘จอมปลอม’ ที่บางคนหยิบยื่นให้ ความรักประเภทนี้มักจะจางหายจากคุณไปในท้ายที่สุด ที่เลวร้ายไปกว่านั้น ยิ่งคุณให้ความรักกับคนรัก ‘จอมปลอม’ ไปมากเท่าไรคุณก็ยิ่งเจ็บมากขึ้นเท่านั้น

โดยทั่วไปแล้วความจริงใจแบบ ‘จอมปลอม’ ของเขามักทำให้คุณเผลอไผลไปอย่างง่ายดาย และคุณเองก็มักจะหลงเชื่อในความรักประเภทนี้ จนเมื่อคุณรู้ความจริงก็ต่อเมื่อคุณหลงรักไปเต็มเปา จนยากที่จะหักห้ามใจ มากไปกว่านั้น ตัวคุณเองมักจะหลอกตัวเองว่า ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอนว่าคนที่คุณมอบความรักให้เต็มเปี่ยมอย่างเขาจะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวและไม่ซื่อสัตย์ต่อตัวคุณเลยแม้แต่น้อย

ถ้าคุณกำลังมองหา ++ บททดสอบรักแท้ ++ คุณต้องรอจนกระทั่งสิ่งที่แย่สุดๆเกิดคุณกับคุณเสียก่อน ถ้าเขาคนนั้นยังคงยืนเคียงข้างคุณอยู่ตลอด นี่ละถึงจะเรียกได้ว่า “รักแท้”

ติดตามอ่านบทความอื่นได้ตอนต่อไปจ้า
หาเพื่อน หาแฟน วัยทำงานที่มีคุณภาพ ที่ www.NadDate.com

อันตรายของ “การลุ่มหลง” ในความรัก

“รักเข้ามาเติมฉันให้เต็ม ในที่สุดฉันก็ได้พบสิ่งที่เฝ้าตามหามาแรมปี ความอ้างว้างในจิตใจได้ถูกเติมเต็มด้วยความรักของคุณ คุณได้ให้ความหมายที่แท้จริงของการใช้ชีวิตหรืออยู่เพื่อที่จะรัก อยู่เพื่อสุดที่รักของฉัน การดำรงตนอยู่จะมีความหมายใดเล่าถ้าปราศจากความรัก คงไม่มีสิ่งใดที่สำคัญไปกว่าการมีชีวิตเพื่อที่จะรัก เพราะรักคือชีวิตนั่นเอง” น้ำเน่าซะไม่มี!!!

คุณกำลังหลงรักใครหัวปักหัวปำ จนกระทั่งว่าทั้งชีวิตนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการได้รักเขาแล้ว?
คุณต้องการที่จะอยู่กับคนรักตลอดเวลา ปรนนิบัติพัดวีทั้งวันทั้งคืน?
คุณเคยต้องปรับตัวเองทุกอย่างเพียงเพื่อให้สุดที่รักคุณพอใจ?

สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นอาจจะกำลังเกิดกับคุณโดยที่คุณไม่ทันรู้ตัวเลยก็ได้ แต่การที่คุณหลงใหลเขาตลอดเวลาอย่างนี้นี่แหละ อาจจะทำให้เขาต้องหันหลังจากคุณไป!!
คุณคือสัตว์โลกที่เจ้าอารมณ์หรือไม่?
คุณปล่อยอารมณ์ควบคุมคุณทุกอย่างหรือไม่?

ถ้าคุณเป็นเช่นนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคุณจะย่อมทำทุกอย่างเพื่อให้คนที่คุณรักพอใจ วันใดก็ตามที่เขา/เธอเดินจากคุณไป ความรู้สึกจะถาโถมเข้ามาหาตัวคุณเองอย่างรุ่นแรงไม่ว่าจะเป็นความเหงา ความว้าเหว่ ความเศร้าหรือความเจ็บปวด รู้สึกได้แม้กระทั้งว่าคุณถูกทรยศมาตลอด

บางทีคุณอาจจับผิดตัวเอง พยายามหาข้อแก้ตัวเพื่อที่จะให้ความรักครั้งนั้นได้กลับมาเป็นเหมือนเก่า แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรความรักครั้งนั้นก็คงไม่กลับมาหาคุณ จดไว้ในใจเลยว่าคนที่คุณหลงหัวปักหัวปำนั้นอาจจะไม่ได้คิดกับคุณเหมือนอย่างที่คุณคิดกับเขาก็ได้ บางทีการที่เขาจากไปอาจจะเป็นเพราะว่า เห็นคุณหมดประโยชน์เมื่อ หนี้สินที่คุณหามาเพื่อปรนเปรอเขา กำลังทำให้คุณตกที่นั่งลำบากก็ได้

แต่เหตุการณ์เช่นนี้ก็ไม่ได้จำเป็นว่าจะต้องเกิดกับทุกคน เพียงแต่คุณอาจจะต้องมีสติ มีความรอบคอบ รอดูถึงผลตอบรับที่คุณได้หยิบยื่นให้เขาบ้าง อย่าพยายามที่จะขึ้นอยู่กับเขาเพียงคนเดียว บางทีการที่คุณมองหาตัวเลือกหลายๆคนพร้อมๆกัน อาจจะเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีก็ได้ เพียงแต่ต้องอยู่ในขอบเขตและความพอดีด้วย

แค่นี้ก่อนนะ เด๋ววันหลังจะมีมาให้อ่านกันอีกค่ะ

เคยมั้ย…ที่ต้องติดอยู่กับ “ความรักแบบงี่เง่า”

     คุณเคยคิดบ้างไหมว่าทำไมคุณต้องพบกับความรักที่ทำให้คุณผิดหวังอยู่เรื่อย?
     คุณไม่เคยเลย ที่จะได้รับสิ่งที่คุณคาดหวังจากคนที่คุณเดทด้วย?
     คุณรู้สึกเหมือนว่า มันต้องสักอย่างที่พลาดไป ถึงได้ออกมาเป็นรูปแบบนี้?

ถ้าคุณคิดแบบนี้ละก็ ใช่เลย! คุณเป็นคนที่ยึดติดอยู่แต่กับความรักที่งี่เง่า คอยทำให้คุณผิดหวังตลอด คอยแต่คิดตลอดว่าคุณเองเป็นคนที่ผิด ทั้งๆที่คุณยังไม่รู้สาเหตุเลย มีหลายวิธีที่บ่งบอกว่าคุณเป็นคนประเภทนี้และมีอีกหลายวิธีเช่นกันที่ใช้ขจัดความคิดเหล่านี้ออกไปจากคุณเสียที
ก่อนที่เราจะหาสาเหตุกันว่าทำไมคุณถึงเป็นได้เพียงนี้ เราควรจะมาดูกันดีกว่าว่าถ้าเราต้องติดอยู่กับความรักที่แย่แบบนี้จะส่งผลร้ายอย่างไรต่อเราบ้าง

อย่างแรกเลยความสัมพันธ์แย่ๆแบบนี้มักจะขาดความต้องของใครคนใดคนหนึ่ง ระหว่างคุณและคู่รัก ดังนั้นความเครียดมักจะเดินเข้ามาหาคุณโดยที่คุณนึกไม่ถึงเลยและค่อยๆบั่นทอนความมั่นใจของคุณลงทีละน้อย มันอาจจะส่งผลกระทบโดยตรงทั้งชีวิตและการทำงานของคุณ ความเครียดที่เกิดขึ้นบ่อยๆจะทำให้ร่างกายของคุณหลั่งสารเคมีที่ทำให้คุณหมดอาลัยตายอยากกับชีวิต ส่งผลต่อทั้งร่างกายและจิตใจต่อตัวคุณเองโดยตรง

นอกจากนี้ความสัมพันธ์ที่มีแต่การข่มเหงและพูดจาสบประมาทกัน มักจะเป็นตัวบ่อนทำลายทั้งจิตใจที่หดหู่ หมดความมั่นใจส่งผลจนถึงร่างกายได้ ถึงแม้ว่าผลเสียของความรักประเภทนี้จะมีมากมายตามที่ได้กล่าวมาแล้วในข้างต้นก็ตาม แต่ก็มีหลายคนไม่ใช่น้อยที่ยินดีจะยังคงความสัมพันธ์ประเภทนี้ต่อๆไป กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จนถึงขั้นหันไปพึ่งกายาเสพติดหรือของมึนเมาเลยก็มี

แล้วเจ้าอาการที่ทำให้ยึดติดกับความสัมพันธ์ประเภทนี้มันเป็นอย่างไรล่ะ?

การละเลยความเป็นจริงถือว่าเป็นสาเหตุหนึ่งเลยก็ได้ ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าการที่คุณมีความรักในครั้งนี้ไม่ได้ทำให้คุณมีความสุขกับมันสักเท่าไร แต่คุณก็ไม่ยากที่จะเลิกล้มความสัมพันธ์ที่อุตสาห์สร้างสมมาในครั้งนี้ ประมาณว่าถ้าไม่เลิกก็ไม่เป็นเป็นไรนี่
รู้ไหมว่าคุณกำลังพาตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับความสัมพันธ์แย่ๆเข้าแล้วล่ะ หรือว่าการที่คุณคอยโทษตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตายเสมอที่ทำให้คู่ของคุณผิดหวังกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ นี่ก็เป็นอักหนึ่งสาเหตุที่จะพาคุณเข้าสู่ความสัมพันธ์เลวร้ายนี่เหมือนกัน โดยเฉพาะเมื่อข้อแก้ตัวที่คุณสร้างขึ้นมาไม่สมจริงสมจังสักเท่าไร ยิ่งถ้าเกิดว่าคุณกล้าพอที่จะเผชิญหน้าเพื่อบอกกับเขาแต่จนแล้วจนรอดคุณก็กลัวไม่กล้าที่จะบอก มันยิ่งจะทำให้คุณรู้สึกแย่ละคอยโทษตัวเองอยู่เสมอๆ

ผลที่ได้คือคุณทำตัวลำบาก เครียดกับตัวเอง และอาจจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเขาจบลงไปเลย ทางทีดีคุณควรจะค่อยๆพูดกับเขาตรงๆ อธิบายถึงที่มาที่ไป ถึงแม้ว่าผลลัพธ์ที่ได้อาจจะเป็นการห่างเหิน ยังไงมันย่อมดีกว่าการที่คุณต้องมาทรมานตัวเองแบบนี้ แต่ถ้าคู่รักของคุณเข้าใจและยอมรับฟังในทุกๆเรื่องล่ะ?

แล้วสาเหตุที่ทำให้ความสัมพันธ์แย่ๆลักษณะนี้เกิดขึ้นล่ะ มันคืออะไร?

การที่คนเราจะยึดติดกับความสัมพันธ์ประเภทนี้ย่อมแตกต่างกันไปตามบุคคล เหตุผลหลักๆที่หลายคนคิดคือ ถ้าคุณจบความสัมพันธ์ครั้งนี้ไป คงยากที่คุณจะหาคนที่สนใจและเข้าใจในตัวคุณแบบนี้ได้ คุณยึดติดกับเขามากจนลืมไปแล้วว่าเมื่อก่อนคุณก็อยู่ได้โดยที่ไม่มีเขา
นอกเหนือจากนี้แล้ว คุณกลัวเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่จะตามมามากมายเมื่อคุณกับเขาต้องจบกันไปจริงๆ อาจจะคิดไปว่าถ้าคุณเลิกกัน คุณอาจจะเป็นคนที่เรื่องมาก ฯลฯ หรือไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องการเงินที่คู่รักของคุณให้ความช่วยเหลือคุณอยู่ ทำให้คุณ ต้องคอยอดทนต่อการกระทำแย่ๆของเขา

การที่คุณทั้งคู่มีลูกด้วยกันอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่คุณต้องทนอยู่กับความสัมพันธ์แย่ๆนี้ต่อไป กลัวว่าคุณอาจจะทำให้ลูกต้องมีปมด้อย เมื่อขาดพ่อหรือแม่ไป ร้ายยิ่งไปกว่านั้นคุณอาจจะมีปมที่ฝังใจเกี่ยวกับครอบครัวแตกแยกในอดีตที่ทำให้คุณต้องทนกับความสัมพันธ์แย่ๆนี้ต่อไป

แล้วคุณจะทำอย่างไรเพื่อที่จะขจัดความสัมพันธ์แบบนี้ออกไปจากชีวิตล่ะ?

อย่างที่กล่าวมาแล้วสาเหตุของความสัมพันธ์ประเภทนี้ค่อนข้างกว้างและไม่เหมือนกันในแต่ละคน เพราะบางคนไม่สามารถที่จะเลิกรากับคนรักได้ด้วยหลายๆสาเหตุข้างต้น ทางออกที่ดีที่สุด คือหาคำแนะนำ ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้โดยตรง และพยายามทำใจยอมรับในขั้นแรกก่อนว่าคุณต้องอยู่กับความสัมพันธ์ลักษณะนี้ต่อไปอย่างไม่มีทางเลี่ยง แล้วทำไมคุณไม่ทำใจให้เอาชนะให้ได้ล่ะ
เริ่มที่จะเปิดใจให้กับตัวคุณเองเปรียบเสมือนว่าคุณมีตัวคุณเองเป็นที่ปรึกษาที่ดีที่สุดคนหนึ่ง พยายามพุ่งประเด็นไปที่การให้กำลังใจตนเอง ตั้งเป้าหมายของคุณเอง และนึกภาพว่าคุณจะเป็นสุขเพียงใดถ้าคุณสามารถขจัดความผิดหวังและความเศร้าไปจากใจคุณได้ และคุณเองก็สมควรที่จะได้รับความสุข ความสบายใจอย่างที่ผู้อื่นพึงมีทุกประการ อย่ายอมแพ้และห้ามคิดว่าตนเองอยู่อย่างโดดเดี่ยวในโลกนี้ แน่นอนย่อมมีหลายๆคนที่พร้อมจะให้กำลังใจและช่วยเหลือคุณ นึกไว้เสมอว่าอย่างน้อยก็มีคนๆหนึ่งที่จะคอยอยู่เคียงข้างคุณเสมอ คอยให้กำลังใจ สนับสนุนคุณเต็มที่ และคนๆนั้นก็คือ…คุณนั่นเอง!

……………………………………………………………………..

10 สัญญาณที่บอกว่าคุณกำลัง “ตกหลุมรัก”

ความรักเป็นสิ่งที่เรียนรู้จากตำราไม่ได้ แต่เราสามารถที่จะรับรู้ได้จากประสบการณ์ของเราเอง มันเป็นสิ่งที่บ่งชี้ทางด้านอารมณ์และความรู้สึก ซึ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นพื้นฐานของชีวิตคนเราทั่วไป

ถึงแม้หลายคนที่มักจะแสดงออกถึงความรักให้แก่กันและกันในทุกๆวัน แต่ก็ยังมีอีกหลายๆคนฉลองวันวาเลนไทน์ในทุกๆ 14 กุมภาพันธ์ ถือว่าเป็นการรำลึกความรักและเชื่อมความสัมพันธ์ของคนสองคนได้ไปในตัว การที่ตกอยู่ช่วงประสบการณ์ที่มีความรักอยู่ ถือเป็นสิ่งที่สวยงาม น่าชื่นชมเป็นอย่างมาก

สัญญาณ 10 ข้อข่างล่างนี้ อาจจะช่วยบอกคุณได้ว่า คุณกำลังตกหลุมหลักอยู่หรือแปล่า

เป็นคนที่ช่วยให้คนลืม “คนเก่า”
ความทรงจำที่หอมหวานระหว่างคุณและคนรักเก่าเป็นสิ่งที่ยากจะลืม แต่เขาคนใหม่คนนี้มิใช่หรือที่ช่วยให้คุณลืมข้อดี/ข้อเสียของคนรักเก่าไปหมดสิ้น

เป็นคนที่คุณคอยนึกถึงเสมอ
คุณเคยนึกถึงอะไรบ้างไหมในเวลาที่คุณกำลังจดจ่ออยู่กับงานอย่างเคร่งเครียด และเมื่อคุณปลีกตัวออกมาได้ คุณมักจะนึกถึงเขาที่ทำให้คุณมีความสุข หรือนึกถึงช่วงเวลาที่คุณทั้งสองมีความสุขด้วยกัน

คนที่ห่วงใยคุณเสมอ
เขาเป็นคนที่คอยสนใจในตัวคุณเสมอ คนที่คอยยกย่องในความเห็น ความคิด หรือสิ่งที่คุณทำตลอด โดยที่ไม่ได้เข้าไปยุ่งหรือก้าวก่ายชีวิตคุณเลย และยังเป็นคนที่รู้อีกด้วยว่าคุณชอบหรือไม่ชอบทำอะไร

เป็นลักษณะนิสัยของคนที่คุณมักจะเข้าหา
คุณอาจจะชอบคนที่มีมารยาทบนโต๊ะอาหาร, วิธีการที่เขาปฏิบัติต่อผู้อื่น, คนที่มีขนบธรรมเนียมที่ดีงาม หรือแม้กระทั้งคนที่สุภาพมากๆ คนๆนี้แหละคือคนที่ความรู้สึกคุณบอกว่าใช่ ด้วยบุคลิกและการประพฤติตัวของเขาที่คุณชื่นชมนั่นเอง

ไปด้วยกันได้ดี
คุณสองคนมีอะไรที่เข้ากันได้หลายๆอย่าง เช่น งานอดิเรก หรือสนใจบุคคลประเภทเดียวกัน คุณสามารถพูดคุยกับเขาได้อย่างหมดเปลือกเพราะเป็นคอเดียวกัน มันเป็นโอกาสที่ดีที่คุณจะแสดงถึงความรักที่คุณมีต่อเขา แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะพบคนรักแบบนี้ ถึงแม้เขาจะไม่ได้ชอบอะไรที่ตรงกับคุณหมดทุกอย่าง แต่คุณก็สามารถหากิจกรรมที่ทำร่วมกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและ เพื่อให้อีกฝ่ายได้เห็นถึงความห่วงใยที่อีกฝ่ายมีให้

ซื่อสัตย์ต่อกันและกัน
ความรักคือการที่คุณรักคนได้คนหนึ่ง และรักเพียงคนนั้นคนเดียวเท่านั้น มันคงแย่มากๆ ถ้าคนคบใครหลายๆคนในเวลาเดียวกัน สิ่งนั้นไม่ได้เรียกว่าความรัก แต่เรียกว่า “เกมส์” ที่คุณกำลังเล่นกับคนที่รักคุณมากกว่า

แบ่งปันช่วงเวลาพิเศษด้วยกัน
ประสบการณ์ที่สวยงามมักจะถูกสร้างขึ้นและแบ่งปันกันเมื่อคุณทั้งสองอยู่ด้วยกัน เขาคือคนที่คอยอยู่ข้างคุณเสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ตาม เพราะฉะนั้นเมื่อยู่ด้วยกันแล้วถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่คุยกะพูดคุยและปรับความเข้าใจกัน

เรียนรู้ที่จะประณีประนอม
ต่อให้คุณชอบอะไรเหมือนกันเท่าไรก็ตาม แต่ก็ต้องมีบ้างที่บางครั้งความเห็นของคุณจะไม่ตรงกัน เขามิใช่เหรอที่มักเป็นคนประณีประนอมและเข้าหาคุณตลอด ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่จะทำให้คุณคบกันยืนยาว

จัดลำดับความสำคัญก่อน-หลัง
โดยธรรมชาติแล้ว เรามักจะหาเวลามาเจอหรือทำอะไรพิเศษๆให้แก่กัน เขาเป็นที่เห็นคุณสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด พร้อมที่จะสนับสนุนคุณในทุกๆทาง
วาดหวังอนาคตไว้ร่วมกัน
คุณคงเคยพูดถึงสิ่งที่จะทำร่วมกันในอนาคตกับคนที่คุณรู้สึกดีด้วย หรือคนที่คุณไปปาร์ตี้หรืองานแต่งงานเพื่อนด้วยกัน

อย่าเพิ่งคาดหวังมากนัก เพราะความสัมพันธ์ของคุณกับเขาเพิ่งจะเริ่มดำเนินไปเท่านั้นยังมีหนทางอีกยาวไกลที่จะให้คุณทำการตัดสิน สัญญาณทั้ง 10 ข้อข้างต้นคงช่วยคุณได้ไม่มากก็น้อยให้คุณตัดสินใจเรื่องคู่รักเพื่อที่จะได้ไม่ทำให้คุณต้องเสียน้ำตาในภายหลัง

อย่าลืมติดตามบทความดีๆแบบนี้ จากเรา ทีมงาน NadDate.com นะคะ
ค้นพบมิตรภาพบนโลกออนไลน์ กับเพื่อนวัยทำงานที่มีคุณภาพ ที่ www.NadDate.com

กลเม็ดในการเดท : เคล็ดลับในการเอาชนะใจคู่เดทออนไลน์

ปัจจุบันนี้ดูเหมือนว่าการเดทออนไลน์จะกลายเป็นมาตรฐานในการพบปะผู้คนไปเสียแล้ว เรามีเคล็ดลับดีๆสำหรับผู้ที่คิดมีการเดทออนไลน์ มาดูกันเลยว่ามีอะไรกันบ้าง

เมื่อคุณสมัครเป็นสมาชิกออนไลน์เดทแล้ว คุณย่อมรู้สึกตั้งหน้าตั้งตารอ และตื่นเต้นดั่งกับว่าคุณกำลังจะนัดบอดพบกับใครสักคน การจะเป็นที่คนๆนั้นจะตอบรับคุณและนัดพบคุณนั้นย่อมทำให้ใจคุณพองโตอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นคุณต้อง…

ซื่อสัตย์
แต่จะทำไงให้คุณสร้างประวัติส่วนตัวของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้ผลในการเดทออนไลน์ครั้งนี้? แน่ละคุณต้องเคยได้ยินแน่นอนว่าความซื่อสัตย์ถือว่าเป็นนโบายที่สำคัญในการสร้างประวัติ แน่นอนว่าเมื่อคุณเขียนประวัติเกี่ยวกับตัวคุณที่หวือหวา ดูแต่งเติมมากเกิน ย่อมส่งผลให้ผู้ตนต่างให้ความสนใจที่จะเจอคุณ แต่เมือใดที่เขาต่างเจอคุณแล้วความจริงที่โหดร้ายก็จะ “ปิ๊ง” ขึ้นมาในหัวสมองเขาเหล่านั้นทันที แล้วคุณเองอยากถูกทิ้งไหมล่ะเมื่อคุณเจอคนที่ใช่แล้ว?

ตามสถิติแล้วคนที่แสร้งทำเป็นผู้อื่นโดยการสร้างโพรไฟล์หรูๆ ดูดีมักจะจบความสัมพันธ์กับคู่เดทด้วยระยะเวลาเพียง 3-6 เดือนเท่านั้น ถ้าคุณต้องการเจอคนที่ใช่ละก็ คุณต้องซื่อสัตย์กับตนเอง ให้ข้อมูลที่ตรงกับความเป็นจริงเกี่ยวกับตัวคุณด้วย

คุณควรจะทำให้ดูฉลาดและสนุกสนานเมือคุณบรรยายลงไปในโพรไฟล์ของคุณ (ลองนึกว่าคุณชอบโพรไฟล์แบบนี้ไม่ใช่หรือเมื่อคุณลองค้นดูในเวปคู่เดททั้งหลาย) ถ้าคุณเป็นคนสนุกสนาน จะมัวรออะไรอยู่ บรรยายสรรพคุณความเป็นร่าเริงของคุณลงไปเลย แต่ก็ไม่ต้องไปเขียนบอกโต้งๆประมาณว่า “ฉันเป็นคนสนุกสนาน มีอารมณ์ขันมากมาย” มันดูไม่ค่อยจะน่าเชื่อถือเท่าไรหรอกนะ

ตัวอย่างต่อไปนี้การเขียนที่ดูฉลาดและสนุกได้อย่างน่าประหลาด ใครก็ตามที่เป็นสาวกบอลทีมต่างๆ เห็นแล้วต้องชอบแน่นอน (นี่ไม่ใช่การส่งเสริมให้คุณเขียนบรรยายในประวัติให้เป็นอย่างนี้เปะๆ เพียงแต่ให้คุณดูไว้เป็นแนวทางเท่านั้น)

“ถ้าคู่เดทของคุณสนใจกับอันดับที่ 3 หรือ 1 บนหน้าจอโทรทัศน์ มากกว่าอันดับ 4 และ 23 ในห้องนั่งเบ่นของคุณ งั้นคุณก็ต้องถูกจารักไว้ในสถิติแห่งสนามความรักแห่งนี้ บอกคู่เดทของคุณว่าสนาม 58 หลามันใหญ่เกินไป ลองดูแบบหกหลานะ”

รูปภาพแทนคำพูดนับล้าน
สิ่งที่สำคัญอีกสิ่งในโลกของการเดทออนไลน์คือรูปคุณ ภาพจะเป็นสิ่งที่ตอบคำถามเองว่าคุณคือใคร ถ้าคุณบรรยายว่าคุณเป็นนักกีฬาตัวยง แต่ภาพถ่ายกลับเป็นภาพที่คุณนั่งอ้วนเผละอยู่บนโซฟา แล้วมันจะหมายความว่าไงล่ะ? ไม่ควรใช้รูปสมัยเรียนม.ปลายถ้าคุณอยู่ในช่วงเลย 20 ไปแล้ว พยายามหาภาพที่ปัจจุบันที่สุด

“ดวงตาเป็นหน้าต่างของใจ” คำนี้อาจจะฟังดูล้าสมัย แต่มันเป็นจริงเสมอ ถ้ารูปคุณเป็นรูปที่มีดวงตาเปล่งประกาย มักให้ดึงดูดผู้คนให้เข้ามาหาคุณได้ แต่ในทางตรงข้าม ถ้าดวงตาคุณดูอ่อนล้า โรยลา แน่นอนว่าคุณส่วนใหญ่มักจะลากเม้าส์ผ่านคุณไปทันใด

หลีกเลี่ยงคำผิด
หลักจากที่เขียนประวัติเสร็จแล้ว ทางที่ดีคุณควรจะเช็คคำผิดอีกครั้งเพื่อความถูกต้อง เพราะการสะกดคำผิด หรือเว้นวรรคผิดๆถูกๆมักจะทำให้ผู้อ่านรำคาญและหนีหายไปในที่สุด

เรามีคำแนะนำดังนี้ : ลืมไปซะได้ความผิดทั้งหลายแหล่ ห้ามนำเอาไปไว้ในโพรไฟล์ และไม่ต้องไปบรรยายถึงความสัมพันธ์ที่ผ่านมาด้วยว่าเป็นอย่างไร นั่นอาจจะทำผู้อ่านคิดว่าคุณเป็นนัเดทตัวยงหรือชอบหักอกชาวบ้านเป็นงานอดิเรก
หลีกเลี่ยงประโยคประมาณว่า “ฉันไม่ชอบเล่นเกมส์” “ฉันชอบเดินทอดน่องไปตามชายหาด พร้อมด้วยอาหารค่ำใต้แสงเทียน ฯลฯ” ไอ้พวกสิ่งเหล่านี้ เก็บไว้บอกเขาเองตอนเจอกันไม่ดีกว่าหรือ

จากการสำรวจแล้ว ใครก็ตามที่มักพูดแบบนั้นมักจะได้รับธงแดง และไม่ได้รับความสนใจเสมอ

การออกเดทออนไลน์ เป็นอะไรที่สนุก ตื่นเต้นและอาจจะประสบความสำเร็จได้ง่ายๆ แต่คุณต้องระมัดระวัง ป้องกันตนเอง และปล่อยให้มันเป็นไปตามขั้นตอน เมื่อคุณตัดสินใจที่จะนัดเจอใครแล้ว สถานที่ๆเหมาะสมที่สุดคือร้านกาแฟระหว่างวัน หรือที่ใดก็ได้ที่มีคนพลุกพล่าน หลีกเลี่ยงสถานที่ๆลับตาคน เพราะคุณอาจจะโดนทำร้ายหรือล่อลวงได้

อย่าลืมติดตามบทความดีๆ แบบนี้ ที่จะมีมาให้อ่านกันเรื่อยๆนะคะ
ค้นพบมิตรภาพบนโลกออนไลน์ กับเพื่อนวัยทำงานที่มีคุณภาพที่
www.NadDate.com

Show ( 1.. 10) of 12
Page    / 2