SinceritySeekerS RSS
Google Reader or Homepage
Add to My Yahoo!

Add to My AOL
Add to Technorati Favorites!
birdza
*:+: birdza :+:*
/// ช่วงชีวิตที่เคยรักใคร ไม่เคยล้อเล่นกับหัวใจ ///

กระเป๋าสตางค์มีไว้ใส่สตังค์ น่ะสิ…ถามได้ แต่เดี๋ยวนี้มีประโยชน์มากกว่าแค่เก็บเงินให้ เป็นที่เป็นทางนะ เพราะบางคนเล่นเก็บทั้งตั๋วจำนำ, ลอตเตอรี่, สำเนาการใช้บัตรเครดิตไปยันกระทั่งใบรับจากเครื่องเอทีเอ็ม แล้วไหนจะเก็บบัตรประชาชน, บัตรประกันสังคมรวมทั้งบัตรจิปาถะอื่นๆ อีกล่ะ เห็นมะว่ากระเป๋าสตางค์น่ะมีความสำคัญต่อชีวิตของมนุษย์แค่ไหน

แถมบางท่านยังพกกระเป๋า สตางค์ทีเดียว 2-3 ใบพร้อมๆกัน ซะด้วย ไม่รู้จะล่ำซำไปถึงไหน แต่ ฮิฮิ ผู้มีกระเป๋าหลายใบดันกระซิบให้ฟังว่า ที่ต้องใช้หลายใบน่ะ มีไว้เพื่อ หลอกเมียต่างหาก….อ้าว! เช่น ใบแรกมีไว้เผื่อเมียค้น ส่วนใบที่ 2 อุบอิบเก็บเงินไว้เอง และใบที่ 3 ก็ใส่เงินให้ เมียน้อยน่ะเซ่….ว้าว! แสดงว่า หนุ่มที่มีเมียน้อยเนี่ย ต้องเป็นคนที่ฐานะดี ไม่งั้นจะมีเมียน้อยไหวรื้อ

แต่ไม่พูดเรื่องเมียน้อยเมียมากหรอกนะ หันมาคุยถึง กระเป๋าสตางค์ ดีกว่า เห็นบางคน ใช้กระเป๋าสตางค์ท้นทน ซื้อใบนึงใช้ที 5 ปี 10 ปี ตรงข้ามกับผู้ที่ชอบเปลี่ยนไปเรื่อยๆ หรือซื้อกระเป๋าสตางค์ไว้หลายใบ แล้วค่อยนำมาใช้ให้เหมาะสม กับวาระและโอกาสต่างๆ ขณะผู้ที่ไม่สนกับอิมเมจ (ภาพพจน์) ของตัวเองเท่าไหร่ เพราะไม่รู้จะแคร์ ไปทำไม ในเมื่อเราไม่ได้เป็นไฮโซหรือดารานักร้องคนดังที่ไหน จึงพกแค่กระเป๋าใบเดียวก็สามารถลุยไปได้ทุกงาน เย้

งั้นรู้มะว่า กระเป๋าสตางค์สามารถบอกถึงตัวตนของคนเป็นเจ้าของได้ไงมั่ง อาทิ

1. ถ้าชอบใช้กระเป๋าสตางค์ใหม่เอี่ยมตลอดเวลา แสดงว่า เป็นคนพิถีพิถันในการใช้ ชีวิตนะ ทั้งยังเป็นคนสะอาดและกลัวเชื้อโรคด้วยสิ ยิ่งถ้าชอบแบงก์ใหม่ๆด้วยละก็ ถือเป็นคนช่างเลือกเลยล่ะ ซึ่งถ้าเป็นคนช่างเลือกก็ดีอยู่หรอก คิด ดูสิ หากไม่มีบุญเก่าจากชาติปางก่อนแล้วจะช่างเลือกได้เรอะ

2. ถ้าใช้กระเป๋าสตางค์ซะจนมีสภาพกลางเก่ากลางใหม่แล้ว ค่อยเปลี่ยน แสดงว่า พอมีกินมีใช้ หรือ มีก็ใช้ และไม่มีก็ไม่ใช้นั่นแหละว้า

3. ถ้าใช้กระเป๋าสตางค์ซะจนเปื่อย หรือเปลี่ยนสีไปเลย ก็บอกชัดแล้วว่า เป็นคนประหยัด แต่ไม่แน่ว่าตระหนี่และขี้เหนียวมากน้อยแค่ไหน ที่รู้ๆไม่ ค่อยกล้าซื้อของใหม่ๆใช้ละกัน แต่ขืนพกกระเป๋าที่เก่ามากเกินไป ระวังกระเป๋าจะรั่วเอานะฮ้า ทีนี้ แทนที่ จะประหยัดสมใจ เงินทองอาจรั่วไหลโดยไม่รู้ตัวเอาก็ได้

4.ไม่ใช้ กระเป๋าสตางค์ แต่ใช้วิธีซุกเงินไว้ตรงนั้นทีตรงนี้ที แหม ก็บอกแล้วว่าเป็นคนไร้ระเบียบ และอาจรวมไปถึงไม่รู้จักใช้ตังค์ด้วยซ้ำไป

อ้อ เนื่องจากเศรษฐกิจมีอาการไม่เข้า ใครออกใคร ดังนั้น หากมีโทร.มาเสนอเงินให้คุณผู้อ่านกู้ ด้วยเหตุผลที่ฟังแล้วเคลิบเคลิ้ม ว่าเป็นลูกค้าชั้นดี (ก็พูดงี้กับทุกคนแหละ) หากไม่จำเป็นต้องใช้เงินในช่วงนั้น ก็ควรปฏิเสธซะ อู้ยเล่น โทร. มาชวนให้เราเป็นหนี้เนี่ยนะ น่ารักหรือน่าโกรธ คิดเอาละกัน.

1.คนที่ใช่ ไม่ได้มีเพียงคนเดียว : ถ้าคุณคิดว่าคุณทำคู่แท้หลุดมือไปแล้วล่ะก็ อย่าเสียใจไปเลย โลกนี้เต็มไปด้วย ผู้ชายที่มีแนวโน้มจะเป็นคนที่ใช่เยอะแยะ “เหตุผลที่ผู้หญิงมากมายทุกข์ใจ จากการเดท ก็เพราะพวกเธอเชื่อว่า โลกนี้มีผู้ชาย แค่คนเดียวที่ถูกสร้างมาเพื่อเธอ”

2.รักแรกพบมีจริง : มันเป็นไปได้ ที่เราจะรักใครซักคน ที่เพิ่งเจอแค่แป๊ปเดียว “ทางชีวภาพสัตว์ต้องหาคู่ให้ได้ ก่อนฤดูผสมพันธุ์สิ้นสุด ก็เลยต้องถูกตาต้องใจกันอย่างเร็ว” ในเมื่อสมองเราก็ส่งสารแบบนั้น เราก็เลยสามารถตอบโต้ ตัวกระตุ้นอย่างความชอบ ภาษากายและความเข้ากันได้อย่างรวด เร็ว

3.อยู่ห่างๆ กันบ้างก็ดี : ในขณะที่คุณกำลังคลั่งรักหัวปักหัวปำ สิ่งที่คุณอยากทำก็คือเอาอกเอาใจเขา และอยากเกาะติดเขาแจได้ทั้งวันทั้งคืน “การอยู่ห่างกันทำให้สารเคมีแห่งความรัก อย่างโดพามีนและนอเรฟฟินเนฟฟิลในสมองเพิ่มผลผลิต”

4.ความรักไม่ใช่เรื่องของอารมณ์ : ความรักกระตุ้นสมองส่วนที่สัมพันธ์กับการจดจ่อไปที่แรงจูงใจ และแรงผลักดัน ซึ่งตรงข้ามกับสมองส่วนความรู้สึก เช่นความสุขหรือความเศร้า ตอนนี้เราก็รู้แล้วว่า ทำไมเราถึงว้าวุ่นใจเป็นพิเศษ สำหรับคนที่ทำให้ชีพจรเราเต้นรัว

5.ความรักเป็นสิ่งเสพติด: เมื่อเราดูรูปคนรักเก่า ส่วนของสมองที่เกี่ยวข้อง กับการเสพติดแอคทีฟเป็นพิเศษเลย โดพามีนถูกหลั่งออกมา แล้วเราก็รู้สึกเคลิบเคลิ้ม จิตใจหวั่นไหวล่องลอยอย่างแรง เหมือนใช้ยาเสพติดเลย นั่นคือสาเหตุที่เราโหยหาหวานใจเราไง

6.ผู้ชายรักง่ายกว่าผู้หญิง : เรามีแนวโน้มจะคิดว่าผู้หญิงรีบร้อนที่จะมีรัก แต่ความจริงผู้ชายเป็นอย่างนั้นมากกว่า “สมองผู้ชายติดตั้งสัญญาณเกี่ยวกับการมองเห็นมากกว่า” ดังนั้น เมื่อหนุ่มเห็นสาวที่ทำให้เครื่องเขาติด ก็จะมีแรงไปกระตุ้นสมองส่วนพิเศษที่มีเฉพาะในเพศชาย

เมื่อคุณได้เบอร์เธอมา: วิธีคุยโทรศัพท์

1. ห้ามคุยนานกว่า 30 นาทีเป็นอันขาด– การโทรคุยกับสาวๆนั้น จุดประสงค์ที่แท้จริงก็คือการชวนเธอออกเดท ไม่ใช่ไปสนทนาปัญหาบ้านเมือง คุณนั้นมีเวลาคุยอีกเต็มที่เมื่อคุณเดทกับเธอ


2. วางสายในขณะที่การคุยกําลังสนุก–ผู้ชายหลายต่อหลายคนได้ทําผิดพลาดอย่างมาก ในข้อนี้ พวกเค้าคิดว่าถ้าทําให้เธอคุยกับเค้านานๆได้ เธอจะหันมาชอบ พวกเค้าไม่เคยวางในขณะที่การสนทนาเป็นไปอย่างสนุกสนานออกรสชาติ เค้านั้นยังดั้นด้นคุยมันต่อไป 2ชั่วโมง 3 ชั่วโมง จนในที่สุดก็ไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว แต่เค้าก็ยังไม่วาง จนกระทั่งใน ที่สุดเธอก็เบื่อ คุณต้องวางสายทุกครั้งที่คิดว่าการสนทนากําลังเป็นไปอย่างสนุก เรียกว่า
เมื่อถึงจุดพีคเมื่อไหร่ คุณต้องวางทันที มันจะทําให้เธอคิดถึงคุณ คิดถึงบทสนทนาที่ดี ระหว่างคุณและเธอ และพอครั้งต่อไปที่คุณโทร คุณจะรู้สึกได้เลยว่าเสียงเธอนั้นดีใจ ที่คุณโทรมา


3. ขอเธอวางก่อนทุกครั้ง–อย่ารอให้เธอขอวางสายก่อน คุณต้องบอกเธอก่อนทุกครั้ง!! คุณจะต้องทําตัวให้ท้าทาย ทําเหมือนว่าคุณมีสิ่งที่สําคัญกว่าเธอรอคุณอยู่ ทําให้เหมือนกับว่าคุณนั้นชอบที่จะคุยกับเธอแต่ถ้าไม่ได้คุยคุณก็ไม่แคร์!!!


4. ไม่โทรทุกวัน ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม –เคยได้ยินมาหลายครั้งหลายหนเหลือเกินว่า เวลาจะคุยโทรศัพท์จีบสาวนั้น ให้โทรไปทุกวัน โทรไปเรื่อยๆ บอกเธอไปว่าคิดถึง อย่างโน้นอย่างนี้ เพราะเดี๋ยวเธอก็ใจอ่อนเอง ผิดถนัด!!! ผู้หญิงนั้นถ้าเธอชอบเรา ไม่ว่าเราจะโทรไปทุกวันหรือไม่โทรหาเธอก็ยังชอบเราอยู่ดี การที่ไม่โทรไปหาเธอบ้าง
จะทําให้เธอกระวนกระวายและคิดถึงคุณมากยิ่งขึ้น แต่คุณลองคิดดูถ้าเธอ ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะชอบคุณหรือไม่ แต่คุณโทรไปหาเธอทุกวันๆๆๆ คุณนั้นกําลังบอกเธอเลยว่าความสุขทั้งหมดของคุณขึ้นอยู่กับเธอคนเดียว คุณไม่ได้เป็นสิ่งที่ท้าทายเลยสําหรับเธอ เธอรู้ได้ทันทีว่าคุณเป็นลูกไก่ในกํามือ โทรไปวันเว้นสองวันบ้าง บางครั้ง
ก็3-4วันครั้ง มันจะทําให้เธอรู้ว่าคุณมีชีวิตเป็นของตัวเอง และdonjuanทุกคน ก็มีชีวิต เป็นของตัวเอง


5. คุยเรื่องความรู้สึก คุยเรื่องความคิดของเธอ— อย่าคุยแต่เรื่องทั่วไป เช่น ทําอะไรอยู่ วันนี้ไปไหน ช้อปปิ้งมาเหรอ ซื้ออะไรมา การคุยแบบนี้ใครก็คุยกับเธอได้และคุณจะทําให้เธอเบื่อ!!!


การคุยเรื่องทั่วไปนั้นเราจะคุยเฉพาะตอนแรกๆ ที่เราโทรไปเท่านั้น จากนั้นคุณต้องคุยเรื่องที่ เกี่ยวกับความรู้สึกเธอ ความคิดของเธอ ถามเธอว่าเธอคิดยังไง รู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ เรื่องนั้น จากนั้นก็ให้เธอเผยตัวตนของเธอออกมา ให้เธอเปิดใจกับคุณมากขึ้น และที่สําคัญคืออย่าคุยเรื่องที่มันเครียด ทําใจให้สบายๆ ทําเหมือนกับว่าคุณคุยกับ เพื่อนคุณเอง
กฎทองข้อที่ 1 เราจะไม่โกรธพร้อมกันทั้งสองคน อย่างที่คนโบราณเค้าว่า ถ้า…. เขาร้อนเป็นไฟ คุณก็ต้องเย็นให้ได้ดั่งน้ำ (น้ำเปล่านะ ไม่ใช่น้ำมัน)
We will not simultaneously get angry. Be cool as water whenever another one being fire.

กฎทองข้อที่ 2 เราจะไม่ตะโกนใส่กันเด็ดขาด ยกเว้นตอนเกิดไฟไหม้บ้านกระทันหัน
We will not shout into each others faces beside our house is accidentally on fire.

กฎทองข้อที่ 3 จำไว้ว่าไม่มีใครชอบคำติ หากจะคุยถึงสิ่งที่คุณไม่ชอบให้เขาทำ อย่าลืมพูดให้หวานๆ เข้าไว้ (ไม่ใช่พูดว่าน้ำตาลๆๆๆนะ)
Nobody loves to be criticized. When talking of what you dislike or need his/ her improvement, use soft & sweet words.

กฎทองข้อที่ 4 เราจะไม่มารื้อฟื้นเรื่องบาดหมางในอดีต ถ้าจะคุยเรื่องเก่าๆ เลือกเรื่องหวานๆ ของสองเราจะดีกว่า
We will not revive any bad old practices, but only our romaces.

กฎทองข้อที่ 5 ทำให้เขารู้สึกว่า เขาสำคัญสำหรับคุณเสมอ
Make him/ her know how much s/he means to you.

กฎทองข้อที่ 6 สัญญากันนะว่าเราจะไม่โกรธกันข้ามคืน เพราะคุณนั่นแหล่ะจะนอนไม่หลับ คุยกันให้เข้าใจกันก่อนดีกว่าหันหลังให้กัน
Promise me that we will not peevish over-night. Talk face to face not back-chat.

กฎทองข้อที่ 7 คุยกันให้มากหน่อย จะช่วยให้ความรักระหว่างเราเข้าใจกันมากขึ้น จะเป็นเรื่องอะไรก็ได้ที่คุณเจอะเจอ เรื่องงานของคุณ หนังสือที่คุณเพิ่งอ่านจบ ลองเล่าสู่กันฟัง แล้วคุณจะรู้สึกได้เลยว่าเราผูกพันกันมากขึ้นกว่าเดิม
Tell him or her more about anything in your life to tie you up together.

กฎทองข้อที่ 8 ถ้ารู้ตัวว่าทำผิดก็ขอโทษซะ ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียฟอร์มหรอก
Don’t be shy to show him/her your apology. When you have something mistaken

กฎทองข้อที่ 9 อย่าเข้าใจผิดว่าการอยู่ด้วยกันตลอดเวลา หมายถึงความเอาใจใส่อย่างแท้จริง เพราะการใส่ใจ คือการให้ความสนใจเต็มร้อยเวลาที่อยู่ด้วยกัน ไม่ใช่คุณนั่งฟังเขาพูด แต่ดูทีวีไปด้วย
Don’t misunderstand that being together always is to show your heedfulness.

กฎทองข้อที่ 10 อย่าลืมทำให้เขารู้ว่า เรายังรักกันเสมอ …
Lastly, realize him/ her that your love still exists and will be eternally last.

กฎข้อพิเศษสำหรับใครบางคน การที่จะได้รู้จักใครซักคนเป็นเรื่องที่วิเศษ อย่าให้เพียงแค่เรื่องเล็กน้อยชั่วไม่กี่นาที ตัดสินใจทำลายความสัมพันธ์ที่มีมา… มันคุ้มกันแล้วเหรอ!! เพียงคำว่าอภัยและปรับตัวเข้าหากันใหม่ สิ่งดีๆ อาจมีขึ้นโดยที่คุณไม่รู้ตัว ปัญหาเกิดเพราะไม่คุย ปัญหาเกิดเพราะไม่คิดจะแก้ไข ปัญหาเกิดเพราะทิฐิ ปัญหาเกิดเพราะคิดว่าไม่รู้จะทำไปทำไม ปัญหาเกิดเพราะนึกถึงแต่ตัวเองคิดว่าทำอย่างนี้ดีที่สุด …แล้วอีกฝ่ายคิดแบบเดียวกับคุณหรือเปล่า สุดท้ายก็มีแต่ความเสียใจ….

คุณเลือกที่จะยอมรับในสิ่งที่เค้าทำ แล้วรักษาสิ่งดีๆ ต่อไป หรือเลือกที่จะทำลายเมื่อคุณไม่ได้มาซึ่งสิ่งที่คุณต้องการ!!

“ตัดเล็บอย่างไรให้มีโชค”
อันความเชื่อในครั้งบรรพกาล ของคนรุ่นผู้เฒ่าผู้แก่ ที่ถือปฏิบัติมาเพื่อเสริมมงคลและโชคลาถให้แก่ชีวิต” ขออนุญาตินำมาเล่าสู้กันฟังในวันว่างค่ะ “เล็บ” เป็นสิ่งที่ต่อจากกระดูก โดยงอกแทรกออกมาจากเนื้อและหนังของเรา นับเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของคนเรา การจะตัดทิ้งหรือตัดออก ย่อมมีผลกระทบต่อเราโดยตรง หากเราตัดเล็บในวันไม่ดี บ่อยๆครั้งเข้า อาจทำให้ชีวิตเรามีเรื่องเกิดขึ้น ซึ่งบางครั้งเรามักไม่เคยสังเกตุว่าเกิดอะไรขึ้นกับเราบ้าง ทั้งด้านดีและไม่ดี ดังนั้นเวลาจะตัดเล็บ ควรจะดูวันที่ควรจะตัดสักหน่อย อย่างน้อยๆ ไม่ได้ทำให้เราเสียเงินหรือเสียเวลาอะไรมากมาย เป็นการเดินตามผู้ใหญ่ไม่มีโทษอะไร ท่านว่าไว้:

1. ควรตัดเล็บวันอาทิตย์ – ท่านว่าจะทำให้มีโชคดี ได้โชคลาภอย่างนึกไม่ถึงและมีเรื่องดีๆมาถึงตนเอง
2. ควรตัดเล็บวันจันทร์ – ผู้ใดตัดเล็บในวันนี้ นับเป็นเรื่องดีจะได้ลาภใหญ่ เกิดขึ้นกับตนเอง
3. ห้ามตัดเล็บวันอังคาร์ – คนโบราณมักจะห้ามตัดเล็บในวันอังคาร์ (เพราะถือว่าเป็นวันดุ) ดังนั้นหากใครตัดเล็บในวันนี้จะทำให้หมดราศี และอาจต้องมี เรื่องให้เสียทรัพย์สินเงินทอง
4. ควรตัดเล็บวันพุธ – หากใครตัดเล็บในวันนี้จะเป็นมงคลแก่ตน ในด้านคุ้มครอง- ปกป้องจากสิ่งชั่วร้าย สิ่งไม่ดีต่างๆ ไม่ให้มากล้ำกรายได้
5. ห้ามตัดเล็บวันพฤหัสฯ – โบราณว่าวันนี้เป็นวันครู ท่านห้ามตัดเล็บ ผู้ใดตัดเล็บในวันนี้ จะได้รับความเดือดร้อนมีเรื่องยุ่งยากเข้ามาเป็นอุปสรรค
6. ควรตัดเล็บวันศุกร์ – ผู้ตัดเล็บในวันนี้ ตำราว่าจะได้ลาภ มีมงคล อุดมสมบูรณ์
7. ห้ามตัดเล็บวันเสาร์ – ใครก็ตามที่ตัดเล็บในวันนี้ จะส่งผลด้านสุขภาพ ล้มป่วยไม่ สบาย เป็นโรคภัยต่างๆ
8. ห้ามตัดเล็บวันพระ – คนที่ตัดเล็บวันนี้ มักจะอายุสั้น ล้มป่วยไม่สบายง่าย และมีเรื่อง เดือดร้อน มักเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายๆ

คุณเป็นคนโสดแบบไหน?

โสดแสนดี

โสดประเภทนี้มีแต่ความหวังดี (มาก) และพร้อมที่จะเสียสละเพื่อคนที่รักตลอดเวลา
แม้ตัวเองจะเจ็บช้ำแค่ไหนก็ยอม ขอแค่ให้เขาหรือเธอมีความสุขก็พอ (โห… เจ้าชาย/นางฟ้า ตัวจริง) ลักษณะเด่นของคนโสดกลุ่มนี้คือ รักกี่ทีก็ช้ำ เพราะมัวแต่เป็นคนดี (ไม่ดูตาม้าตาเรือ) คนโสดประเภทนี้
เขาจะมีเพลงประจำตัว คือ เพลงคนดีไม่มีที่อยู่ ของ POTATO

โสดเจียมตัว

โสดประเภทนี้เป็นคนดีอีกแบบ (แต่น้อยกว่าข้อแรก) ดีแบบเจียมเนื้อเจียมตัว มองตัวเองต่ำต้อยด้อยค่าอยู่ตลอดเวลา ไม่หวังอะไรมากมาย ขอแค่เป็นจุดหนึ่งเล็กๆ เท่าตับมดที่ได้รักเธอก็พอ (อะไรจะเล็กขนาดนั้น… 555) คนโสดกลุ่มนี้
มีเพลงประจำตัว คือ คนเจียมตัว ของ SO COOL

โสดโดนสาป

โสดประเภทนี้มองชีวิตว่ามีกรรม ฟ้าดินกลั่นแกล้ง สวรรค์ไม่มีตา
เทวดาสาปส่งให้ไม่มีคนรัก ไม่มีคนสนใจ (โห… ชีวิตรันทดสุดๆ อ่ะ) มีรักเก็บกักตุนไว้เต็มหัวใจ แต่ไม่มีใครต้องการ (แงๆ เศร้าจริงๆ)
เพลงประจำตัวคนโสดประเภทนี้ คือ คนไม่มีแฟน ของ เบิร์ด ธงไชย

โสดปากแข็ง

โสดประเภทนี้ชอบทำตัวเหมือนไม่เดือดร้อน ไม่มีใครรักก็ไม่เป็นไร ฉันอยู่ของฉันได้อย่างสบายๆ ไม่แคร์ใคร (แต่ใครจะรู้บ้างว่าในใจน่ะว้าเหว่มากๆ แถมร้องตะโกนเรียกหาใครบางคนอยู่)
คนกลุ่มนี้มี เพลงประจำตัว คือ ความลับ ของ พอส

โสดอาฆาต

โสดประเภทนี้มีความอาฆาตพยาบาทสูง รักแรง เกลียดแรง แถมยังแค้นแรงอีกต่างหาก (ใครทำฉันเจ็บ จากไปอย่าได้หวังว่าจะมีความสุข เพราะฉันจะตามสาปส่งพยาบาททุกชาติไป)
คนกลุ่มนี้มี เพลงประจำตัว คือ ขวากหนาม ของ HYPER

โสดใฝ่สูง

โสดประเภทนี้แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับโสดเจียมตัว เพราะมีนิสัยและการมองโลกที่ตรงข้ามกัน มีความทะเยอทะยาน ฝันสูง ถือคติความรักไม่ใช่เรื่องไกลตัว เธอหรือเขาอยู่สูงแค่ไหนก็ต้องเอื้อมมาให้ได้
แม้จะถูกคนในสังคมส่วนใหญ่มองว่าเป็นหมาวัดที่ชอบเด็ดดอกฟ้าก็ยอม
เพลงประจำตัวคนโสดประเภทนี้ คือ หมาเห่าเครื่องบิน ของ โลโซ

โสดเจ็บแล้วต้องจำ

โสดประเภทนี้เป็นพวกเข็ดขยาดกับความรัก เพราะเคยมีประสบการณ์ที่เจ็บปวด (อกหัก/ถูกทิ้ง) ก็เลยถือคติเจ็บแล้วต้องจำ จะไม่ช้ำ ไม่รักใครอีกแล้ว ขออยู่เป็นโสดไปจนตาย (ปิดกั้นตัวเองซะยั่งงั้น)
เพลงประจำตัวโสดประเภทนี้ คือ เพื่อนกับแฟนแทนกันไม่ได้ของ เล้าโลม

โสดมั่นใจ

โสดประเภทนี้มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง (มาก) สามารถพลิกผันสถานการณ์ “อกหัก” ให้เป็น
“ทางเลือก” ได้ ประมาณว่า ดีแล้วที่เลิกกันไป ฉันจะได้มีโอกาสมองคนใหม่ที่ดีกว่านี้
(ถึงจะเป็นโสดก็ไม่เป็นไร ฉันมั่นใจ ฉันไม่ผิด)
เพลงประจำตัว คือ ไม่เดือดร้อน ของ Calyn

โสดพยายาม

โสดประเภทนี้มีเป้าหมายชัดเจนว่าไม่อยากเป็นโสด ฉะนั้นจึงมีความพยายาม กระตือรือร้น และลงมือทำเพื่อให้พ้นจากสถานะ “โสด” โดยเร็ว ถือคติไม่ลงทำมือก็ไม่ได้มา (แต่ยังไม่เข้าข่ายเกินงาม) เปอร์เซ็นต์ส่วนใหญ่ของโสดกลุ่มนี้เป็น สาวยุคใหม่ มีความมั่นใจพอตัว
เพลงประจำตัว คือ ผ้าเช็ดหน้า ของ ไทรอัมพส์คิงดอม

โสดยังหวัง

โสดประเภทนี้มีความหวังเป็นแรงบันดาลใจ ถือคติชีวิตนี้ไม่สิ้นหวัง
ชอบการรอคอยค้นหา วันนี้ไม่เจอไม่เป็นไร พรุ่งนี้ยังไหว… รอได้ๆ แต่มีความพยายามไม่เท่ากลุ่มก่อนหน้านี้ ไม่ชอบการลงมือปฏิบัติ แต่ชอบตั้งหน้าตั้งตารอคอย (กี่ชาติผ่านไป ไม่เคยสิ้นหวัง!!)
สำหรับเพลงประจำตัว คือ คนที่ไม่เข้าตา ของ Calories – Blah Blah
มีใครบางคนบอกว่า….ในความรัก ของคนสองคน สุดท้ายเวลาที่เลิกกันเราจะรู้ว่าใครคือ “ผู้ให้” และใครคือ “ผู้รับ”
ผู้ให้ คือ คนที่หยิบยื่นความเจ็บปวดให้อีกฝ่ายจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่เขาได้ให้มันไปแล้วผู้รับ คือ คนที่ยอมรับความเจ็บปวดนั้นมาโดยที่ไม่อยากได้มันเลยแม้แต่น้อย…แต่ก็ต้องรับมันความหมาย แบบนี้ ไม่มีใครอยากเป็นผู้รับแน่นอนและบางคน… คงไม่อยากจะเป็นผู้ให้ …เหมือนกันเพราะกลัวว่าซักวันอาจจะเปลี่ยนมาเป็นผู้รับบ้าง

ใครคนนั้นบอกอีกว่าบางสิ่งที่เขาหยิบยื่นให้ คนรับ… เต็มใจรับมันเสียด้วยบางคนรับมันมา… รู้ว่าหนัก วางมันลง …เพราะกลัวเหนื่อย
บางคนรับมัน… แบกไว้จนหนัก เหนื่อย …ถึงวางมันลงบางคน… รู้ว่าหนัก …กลับยิ่งแบก รับมันเพิ่ม …มันยิ่งหนักยิ่งเหนื่อย …แต่ไม่วางมันลงมันขึ้นอยู่กับว่าคนรับ..ตั้งใจจะเก็บ จะแบกมันไว้กับตัวนานแค่ไหน

ความทุกข์ ความเสียใจ ความผิดหวัง ความเจ็บปวดเราจะวางมันลง ครั้งเดียวทีเดียวเลยคงไม่ได้และไม่ง่าย…
…. แต่เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าแบกมันไว้ จนหลังไหล่ลู่ล้า อ่อนแรงไปหมด…ขอแค่ค่อยๆวางมันลงทีละนิด …ทีละนิด เท่าที่จะวางได้เป็นพอ
ซักวัน…มันจะเบาบาง… ผ่อนคลายความหนักหน่วงนั้นเองตามกาลเวลา…แม้อาจจะไม่มีวันหมดเลยก็ตาม …แต่ยังไงก็ดีกว่าที่จะเก็บมันไว้แบบนั้น……..ตลอดไป
Show ( 1.. 7) of 7
Page    / 1